สายสัมพันธ์ 8 เชื้อชาติในราชบุรี
 

                ประชากรในจังหวัดราชบุรีมีความหลากหลายทางเชื้อชาติและเผ่าพันธุ์อันเป็นลักษณะเด่นของจังหวัดที่สืบทอดมาแต่โบราณกาล  ทั้งนี้เพราะสภาพภูมิประเทศที่เสริมให้เมืองราชบุรีเป็นอู่รวมทางวัฒธรรม  เป็นเมืองที่ผู้คนทั้งจากดินแดนโพ้นทะเลและชาวพื้นเมืองอีกหลายกลุ่มที่อยู่อาศัยบริเวณชายแดนระหว่างไทย  และประเทศสหภาพพม่าอพยพเข้ามาตั้งรกรากเมืองราชบุรีจึงประกอบด้วยชนหลายเชื้อชาติ  แต่ละเชื้อชาติมีความแตกต่างกันทางวัฒนธรรมและประเพณี

                ประชากรของจังหวัดราชบุรีเท่าที่สืบค้นได้ในปัจจุบัน  แบ่งตามสายเชื้อชาติได้ดังนี้

           
  1 คนไทยภาคกลางพื้นถิ่น   2 ชาวไทยจีน
  3 ชาวไท – ยวน   4 ชาวไทยมอญ
  5 ชาวไทยกะเหรี่ยง   6 ชาวไทยลาวโซ่ง
  7 ชาวไทยลาวตี้   8 ชาวไทยเขมร
 
 

 
 
 

                            1. คนไทยภาคกลางพื้นถิ่น

                         คนไทยภาคกลางพื้นถิ่นที่จังหวัดราชบุรีเห็นเด่นชัดที่ชุมชนบ้านโพหัก  ตำบลโพหัก  อำเภอบางแพ  คนที่รู้จักโพหักรวมทั้งคนโพหักดั้งเดิม  ต่างยอมรับว่า  คนโพหักเป็นไทยแท้  สังเกตได้จากสำเนียงภาษาที่แปลกว่าท้องถิ่นอื่นในจังหวัดราชบุรี  เช่น  ใช้คำนำหน้าชื่อผู้หญิง  “ออ”  อาทิ  ออแดง  ออนุ่น  เป็นต้น  บางคนกล่าวว่าคำเหล่านี้เป็นคำไทยแท้แต่โบราณ

 

 
                     2.ชาวไทยจีน

                    ชาวไทยเชื้อสายจีนเป็นกลุ่มชนที่มีบทบาททางเศรษฐกิจต่อเมืองราชบุรีอย่างมาก  G.Williaw  Skinner  ผู้ศึกษาเรื่องราวของชาวจันในประเทศไทยระบุว่าใน  พ.ศ.  ๒๔๕๐  ตรงกับรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว  รัชกาลที่  ๕  เป็นช่วงที่ชาวจีนอพยพเข้ามายังดินแดนประเทศไทยมากที่สุด  ชาวจีนที่อพยพเข้ามาสารถแยกออกเป็น  ๕  กลุ่มตามสำเนียงการพูด  ได้แก่  ชาวจีนกลุ่มแต้จิ๋ว  จีนแคะ  ไหหลำ  กวางตุ้ง  และฮกเกี้ยน  ชาวจีนเหล่านี้กระจายกันอยู่ในเขตอำเภอเมืองราชบุรี  อำเภอดำเนินสะดวก  อำเภอบ้านโป่ง  และอำเภอโพธาราม

 

 
                     3.ชาวไท – ยวน

                        ชาวยวนมีถิ่นฐานเดิมอยู่ทางแถบอาณาจักรล้านนา  ดินแดนทางตอนเหนือของประเทศไทย  ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช  รัชกาลที่  ๑  ได้มีพระราชบัญชาให้กองทัพกรมหลวงเทพหริรักษ์  กองทัพเมืองเวียงจันทน์  พร้อมด้วยกองทัพเมืองล้านา  ยกขึ้นไปตีเมืองเชียงแสนใน  พ.ศ.๒๓๔๗  ขณะนั้นเมืองเชียงแสนถูกพม่ายึดไว้  เมื่อยึดเมืองเชียงแสนได้และไล่ตีทัพพม่าแตกไปแล้วกองทัพจากกรุงเทพฯ  ก็ได้รื้อกำแพงเผาบ้านเมืองแล้วกวาดครัวชาวเมืองราง  ๒๓,๐๐๐  คนเศษ  อพยพลงมาทางใต้  แบ่งครัวออก เป็น  ๕  ส่วนหนึ่งให้อยู่ที่เชียงใหม่  ส่วนที่สองอยู่ที่เมืองนครลำปาง  ส่วนที่สามอยู่ที่เมืองน่าน  ส่วนที่สี่อยู่ที่เมืองเวียงจันทน์  ส่วนสุดท้ายพาลงมากรุงเทพฯ  พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช  โปรดให้ไปตั้งบ้านเรือนอยู่ที่สระบุรีบ้าง  ราชบุรีบ้าง

                        ชาวยวนที่มาตั้งถิ่นฐานอยู่ที่เมืองราชบุรีนั้น  พากันตั้งบ้านเรือนบริเวณริมฝั่งขวาของแม่น้ำแม่กลอง  ห่างจากเมืองราชบุรีปัจจุบันไปทางทิศตะวันออกประมาณ  ๒  กิโลเมตร  เรียกว่าบ้านไร่นที  ต่อมามีการขยายครัวเรือนออกไปจากที่เดิมอีกหลายพื้นที่  อาทิ  ตำบลคูบัว  ตำบลดอนตะโก  ตำบลดอนแร่  ฯลฯ  อำเภอเมืองราชบุรี  ตำบลหนองโพ  ตำบลบางกระโด  ฯลฯ  อำโพธาราม  และตำบลหนองปลาหมอ  เป็นต้น

 

 
                      4.ชาวไทยมอญ

                         ชาวมอญอพยพเข้าสู่ประเทศไทย  มีหลักฐานปรากฏครั้งแรงเมื่อ  พ.ศ.๒๑๒๗  หลักจากสมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงประกาศอิสรภาพเมืองแคลง  ครั้งนั้นพระมหาเถรคันฉ่องกับพระยาเกียรติ  พระยารามได้พาสมัครพรรคพวกชาวมอญตามเสด็จกลับมากรุงศรีอยุธยาเป็นจำนวนมาก  หลังจากนั้นก็มีการอพยพต่อมาอีกหลายครั้งให้สมัยอยุธยาและสมัยรัตนโกสินทร์  ชาวมอญในจังหวัดราชบุรีตั้งถิ่นฐานบริเวณสองฝั่งแม่น้ำ  แม่กลองในเขตอำเภอโพธารามและอำเภอบ้านโป่ง

 

 
                        5.ชาวไทยกะเหรี่ยง

                           ชาวไทยกะเหรี่ยงในจังหวัดราชบุรีตั้งถิ่นฐานอยู่บริเวณชายแดนใกล้เทือกเขาตะนาวศรี  มีผู้สันนิษฐานว่ากะเหรี่ยงกลุ่มราชบุรี  เพชรบุรี  และประจวบคีรีขันธ์  น่าจะอพยพโยกย้ายมาจากเมืองทวายในพม่า  ชาวกะเหรี่ยงรุ่นเก่าที่อยู่ในตำบลสวนผึ้งเล่าต่อกันมาว่าราว  ๒๐๐  ปีเศษผ่านมาแล้ว  ได้ถูกพม่ารุกรานจึงพากันอพยพข้ามเทือกเขาตะนาวศรีเข้าชายแดนไทยทางอำเภอไทรโยค  จังหวัดกาญจนบุรี  แล้วแยกย้ายกันไปอยู่ที่จังหวัดราชบุรีอพยพมาอยู่ที่บ้านเก่ากะเหรี่ยงและบ้านหนองกะเหรี่ยง  (บ้านหนองนกกระเรียน)  แล้วโยกย้ายต่อมาทางตะวันตกจนถึงลำน้ำภาชี  ตั้งบ้านเรือนอยู่ในอำเภอสวนผึ้ง  และกิ่งอำเภอบ้านคาส่วนอีกสายแยกลงไปทางใต้ถึงต้นน้ำเพชรบุรี

                          กะเหรี่ยงที่อยู่ในอำเภอสวนผึ้งและกิ่งอำเภอบ้านคา  กระจายอยู่ในตำบลสวนผึ้ง  ตำบลบ้านบึง  ตำบลบ้านคา  และตำบลตะนาวศรี  นอกจากนี้ยังอยู่ที่ตำบลยางหักอำเภอปากท่ออีกด้วย

 

 
                        6.ชาวไทยลาวโซ่ง

                            ชาวลาวโซ่งมีถิ่นฐานเดิมอยู่บริเวณกึ่งกลางระหว่างญวนกันอาณาจักรหลวงพระบาท  ซึ่งทำสงคราม  รุกรานกันอยู่เป็นประจำชาวลาวโซ่งจึงต้องอพยพโยกย้ายถิ่นฐานเพื่อหนีภัยสงคราม  บางกลุ่มโยกย้ายไปอยู่ในถิ่นญวน  บางกลุ่มย้ายเข้าไปอยู่ในอาณาจักรหลวงพระบาท  ทั้งไปเองโดยสมัครใจและถูกกวาดต้อนไป  รวมทั้งการอพยพเขามายังดินแดนประเทศไทยด้วย

                            ลาวโซ่งที่เข้ามายังประเทศไทยในสมัยธนบุรี  สมเด็จพระเจ้าตาสินมหาราชโปรดให้ตั้งบ้านเรื่อนอยู่ที่จังหวัดเพชรบุรีต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว  รัชกาลที่  ๓  ได้โปรดให้ชาวลาวโซ่งที่อพยพเข้ามาใหม่ตั้งหลักแหล่งที่บ้านหนองปรงอำเภอเขาย้อย  จังหวัดเพชรบุรี  ภายหลังเมื่อจำนวนประชากรเพิ่มมากขึ้น  ชาวลาวโซ่งจึงพากันอพยพโยกย้ายไปตั้งหลักแหล่งในพื้นที่ใกล้เคียงและขยายออกไป  ส่วนหนึ่งเข้ามาตั้งหลักแหล่งในจังหวัดราชบุรี  ที่บ้านตลาดควาย  อำเภอจอมบึง  บ้าดอนคลัง  บ้านบัวงาน  บ้านโคกตับเป็ด  อำเภอดำเนินสะดวก  บ้านดอนคา  บ้านตากแดด  บ้านดอนพรม  อำเภอบางแพ  และที่บ้านเขาภูทอง  อำเภอปากท่อ

 

 
                         7.ชาวไทยลาวตี้

                                ชาวลาวตี้หรือชาวไทยลาวเวียน  เป้นกลุ่มคนที่มีเชื้อสายลาวจากเมืองเวียงจันทร์  สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว  เข้ามาตั้งถิ่นฐานในเมืองราชบุรีตั้งแต่สมัยธนบุรีเรื่อยมาจนถึงสมัยรัตนโกสินทร์โดยตั้งถิ่นฐานบริเวณที่ห่างจากฝั่งแม่น้ำแม่กลองด้านทิศตะวันออกราว  ๒  กิโลเมตร  ที่เขาแร้ง  อำเภอเมืองราชบุรี  บ้านฆ้อง  บ้านบ่อมะกรูด  บ้านเลือก  บ้านสิงห์  บ้านกำแพงเหนือ  บ้านกำแพงใต้  บ้านดอนทราย  บ้านหนองรี  บ้านบางลาน  ในอำเภอโพธาราม  บ้านดอนเสลา  บ้านหนองปลาดุก  บ้านหนองอ้อ  บ้านฆ้องน้อย  ในอำเภอบ้านโป่ง  นอกจากนี้ยังมีอีกกลุ่มที่อำเภอจอมบึง  ในเขตบ้านนาสมอ  บ้านสูงเนิน  บ้านทำเนียบ  บ้านเกาะ  บ้านหนอง  บ้านเก่า  บ้านวังมะเดื่อ  เป็นต้น

 
                        8.ชาวไทยเขมร

                                ชาวเขมรลาวเดิมเป็นชื่อเรียนประชากรกลุ่มหนึ่งของจังหวัดราชบุรีที่ไม่มีเอกสารหลักฐานใดๆ  กล่าวถึงถิ่นกำเนิดเดิมและสาเหตุของการอพยพครัวเข้าอยู่ในจังหวัดราชบุรีและจังหวัดใกล้เคียง  นอกจากคำบอกจากคำบอกเล่าของผู้เฒ่าผู้แก่บางคนว่า  ถูกกวาดต้อนมาจากทางเหนือปัจจุบันชาวเขมรลาวเดิมตั้งบ้านเรือนกระจายในหลายท้องที่ของจังหวัด  ได้แก่  ในท้องที่บางส่วนของตำบลคุ้มกระถิน  และตำบลคุ้งน้ำวน  เขตอำเภอเมืองราชบุรี  อำเภอปากท่อ  ที่ตำบลวัดยางงาน  หมู่  ๓  บ้านกอไผ่  ตำบลบ่อกระดาน  ที่บ้านบ่อตะคร้อ  บ้านหัวถนน  และบางส่วนของตำบลดอนทราย  ที่หมู่บ้านหนองจอก  อำเภอวัดเพลง  ที่ตำบลวัดเพลงบริเวณวัดศรัทธาราษฎร์บ้านบางนางสูญ  ตำบลเกาะศาลพระ  ที่บ้านคลองขนอน  คลองพะเนาว์  บ้านโคกพริก  อำเภอบางแพ  ที่ตำบลหัวโพ  บ้านดอนมะขามเทศ  ตำบลวังเย็น  ที่บ้านเตาอิฐ  บ้านหนองม่วง  ตำบลวัดแก้ว  ที่บ้านเสาธง  บ้านทำนบ  ตำบลบางแพ  ที่บ้านท่าราบ  ฯลฯ